สำรวจโรงผลิตไวน์ชั้นเลิศมากมายของ Nagano

รายชื่อโรงกลั่นไวน์ชื่อดังใน Nagano ดูได้จากลิสต์ด้านล่างนี้เลย

fromMail2-1


นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยว Nagano มักจะมาเพื่อสัมผัสทัศนียภาพภูเขาอันงดงาม, สถานที่ทางประวัติศาสตร์และประเพณีอันเก่าแก่, วิถีชีวิตที่เงียบสงบ และเพื่อเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ชื่นชอบไวน์จะต้องประทับใจเมื่อได้รู้ว่าที่นี่คือพื้นที่อันโดดเด่นในวงการผลิตไวน์ของญี่ปุ่นซึ่งผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมและนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้าด้วยกัน และคุณจะสัมผัสสิ่งนี้ได้ในไร่องุ่นซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วเนินเขาและหุบเขาลึก

ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาโรงกลั่นไวน์ขนาดใหญ่ชื่อดังที่นำเสนอไวน์ชั้นเลิศได้มาตรฐาน, โรงกลั่นไวน์เล็ก ๆ ที่เน้นการผลิตแบบคราฟต์อย่างประณีต, โรงกลั่นไวน์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานซึ่งผสมผสานประเพณีเข้ากับรสนิยมสมัยใหม่ หรือสถานที่อันเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อันสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน อุตสาหกรรมไวน์ของ Nagano ก็พร้อมที่จะมอบประสบการณ์หลากหลายแบบและน่าสนใจให้กับคุณด้วยเอกลักษณ์และเรื่องราวเฉพาะตัวของแต่ละแห่ง

พรั่งพร้อมไปด้วยดินภูเขาไฟที่ระบายน้ำได้ดี ความสูงจากระดับน้ำทะเลที่เหมาะสม และอุณหภูมิตอนกลางคืนที่เย็นสบาย สภาพภูมิอากาศที่หลากหลายของจังหวัด Nagano เอื้อต่อการผลิตไวน์หลากหลายประเภท และพร้อมจะสร้างความประทับใจให้กับทุกคนอย่างแน่นอน

พื้นที่ผลิตไวน์บริเวณแม่น้ำ Chikuma

Villa D’Est (เมือง Tomi)

fromMail3

หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับคนรักไวน์ที่ไม่ควรพลาดคือ Villa D’Est โรงผลิตไวน์แบบบูติกที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์อย่างยั่งยืนพร้อมมอบบรรยากาศอันงดงามเหมาะกับการท่องเที่ยว โรงผลิตไวน์แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้เมือง Tomi ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 โดย Toyoo Tamamura ผู้เป็นนักเขียนและจิตรกรชื่อดัง 

Villa D’Est เชี่ยวชาญการผลิตไวน์หลากหลายสายพันธุ์ เช่น Chardonnay, Sauvignon Blanc, Merlot และ Pinot Noir บนพื้นที่กว่า 12 เฮกตาร์ ซึ่งประกอบด้วยร้านกาแฟ, ร้านอาหาร และร้านค้า มองเห็นวิวทิวทัศน์อันกว้างไกลและงดงามของหุบเขาแม่น้ำ Chikuma และเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการรับประทานอาหารกลางวันพร้อมชมวิวสวย ๆ และยังมีบทบาทในด้านการศึกษา โดยให้การสนับสนุนโครงการผลิตไวน์ในท้องถิ่น เช่น ศูนย์ Arc en Vigne ซึ่งช่วยเหลือและผลักดันนักทำไวน์รุ่นใหม่ในภูมิภาคให้เริ่มต้นกับอาชีพนี้ได้

เว็บไซต์: Villa D’Est (ภาษาญี่ปุ่น)

Noranorah Farm & Winery (เมือง Tomi)

Noranorah Farm & Winery (Tomi City)

Noranorah หรือชื่อเดิมว่า Hasumi Farm and Winery ตั้งอยู่ในเมือง Tomi และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกวงการโรงบ่มไวน์แบบบูติกในจังหวัด Nagano ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 โดย Yoshiaki “Nick” Hasumi โรงผลิตไวน์แห่งนี้มีความโดดเด่นในการผลิตไวน์แบบ small-batch (จำนวนน้อยแต่คุณภาพสูง) โดยเฉพาะสายพันธุ์ Pinot Noir และ Merlot พร้อมเทคนิคพิเศษอย่างการใช้ยีสต์ธรรมชาติ และการลดการใช้ซัลไฟต์ (Low-SO2) เพื่อสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีเสน่ห์เฉพาะตัว

ไวน์ของ Noranorah ขึ้นชื่อเรื่องสีที่เข้มและมีโครงสร้างที่เข้มข้นกว่าไวน์ญี่ปุ่นทั่วไป คุณ Hasumi ผู้ก่อตั้งสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วเนื่องจากเคยอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกามาหลายปี และเขายินดีต้อนรับผู้มาเยือนสู่ห้องชิมไวน์อันอบอุ่นพร้อมวิวไร่องุ่นและภูเขา

เว็บไซต์: Noranorah Farm & Winery

St. Cousair Winery (เมือง Iizuna)

St. Cousair Winery (Iizuna Town)

 

St. Cousair Winery ตั้งอยู่บนยอดเขาในเมือง Izuna ทางตอนเหนือของจังหวัด Nagano ไร่องุ่นแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่โรงผลิตไวน์เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ที่นี่ก่อตั้งขึ้นในปี 1990 โดย Ryozo Kuze โดยเริ่มต้นจากธุรกิจผลิตแยมที่เขาสร้างขึ้นเมื่อหลายปีก่อนร่วมกับ Mayumi ผู้เป็นภรรยา ปัจจุบัน St. Cousair Winery ผลิตไวน์ได้มากกว่า 200,000 ขวดต่อปีโดยใช้องุ่นที่ปลูกเองในไร่บริเวณหุบเขาแม่น้ำ Chikuma ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์ยอดนิยมอย่าง Chardonnay และ Pinot Noir

ไวน์ของพวกเขาได้รับรางวัลไวน์ทั้งในและต่างประเทศเป็นประจำ โรงผลิตไวน์แห่งนี้ประกอบด้วยร้านอาหาร ร้านค้า และโบสถ์ รายล้อมไปด้วยไร่องุ่นและสวนสวยพร้อมวิวภูเขาอันงดงาม มีบริการทัวร์ชมไร่องุ่นทั้งแบบฟรีและแบบเสียค่าบริการ ทั้งยังมีเมนูอาหารกลางวันแบบซื้อกลับบ้านได้ให้บริการที่เคาน์เตอร์ นอกจากนี้ยังสามารถนั่งรับประทานอาหารสุดหรูในร้านอาหารและชิมไวน์ได้ด้วย St. Cousair Winery เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจับคู่ไวน์กับอาหารรสเลิศในบรรยากาศที่สวยงาม

เว็บไซต์: St. Cousair Winery

Kusunoki Winery (เมือง Suzaka)

Kusunoki Winery (Suzaka City)

Kusunoki Winery ตั้งอยู่บนเนินเขาใต้ที่ราบสูงของอุทยานแห่งชาติ Joshin’etsu Kogen National Park เป็นโรงกลั่นไวน์ขนาดเล็กแบบบูติก ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดย Shigeyuki Kusunoki อดีตพนักงานบริษัทที่ลาออกมาเพื่อผลิตไวน์ โรงผลิตไวน์ของเขาเน้นการผลิต Chardonnay และ Merlot ที่ปลูกในญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยเป็นการผลิตในปริมาณน้อยแต่มีคุณภาพสูง

ไวน์ของพวกเขาโดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลและการผสมผสานของกลิ่นไม้โอ๊กอย่างละเมียดละไม โดยยึดปรัชญาการผลิตไวน์แบบแทรกแซงน้อยที่สุด เน้นให้สภาพภูมิอากาศเย็นสบายและดินภูเขาไฟของภูมิภาคนี้ถ่ายทอดรสชาติของไวน์ออกมา ไวน์ Chardonnay แบบบ่มในถังไม้โอ๊กปี 2014 ของพวกเขาเคยถูกเสิร์ฟในงานเลี้ยงรับรองของการประชุมรัฐมนตรีคมนาคมกลุ่ม G7 ในปี 2016 Kusunoki Winery เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานฝีมืออันประณีตและการแสดงออกตามธรรมชาติของภูมิประเทศของ Nagano

เว็บไซต์: Kusunoki Winery (ภาษาญี่ปุ่น)

Komoro Winery (เมือง Komoro)

Komoro Winery (Komoro City)

Komoro Winery หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า Manns Wines Komoro Winery ก่อตั้งโดยในปี 1962 โดย Kikkoman และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Manns ในการผลิตไวน์ระดับพรีเมียมจากแหล่งผลิตไวน์บนเนินเขา Asama ด้วยไร่องุ่นที่ระดับความสูงถึง 950 เมตร มีอากาศเย็นสบายและดินที่อุดมด้วยเถ้า จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการผลิตองุ่นพันธุ์ยุโรป เช่น  Merlot, Cabernet Sauvignon, Chardonnay และ Sauvignon Blanc

โรงผลิตไวน์แห่งนี้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะไวน์ตระกูล Solaris เช่น Solaris Higashiyama Merlot ซึ่งได้รับคำชมในเรื่องของรสชาติผลไม้ที่สุกพอดี มีความสมดุล และโครงสร้างที่เข้มข้นนุ่มนวล Komoro Winery ยังเป็นจุดแวะเที่ยวที่น่าสนใจใกล้กับเมือง Karuizawa พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยทัวร์ชมไร่องุ่น ห้องเก็บไวน์ และชมกระบวนการผลิตไวน์ซึ่งมีให้บริการทุกวัน

เว็บไซต์: Komoro Winery

Chateau Mercian (เมือง Ueda)

Chateau Mercian (Ueda City)

Chateau Mercian ถือเป็นเรือธงของวงการไวน์ญี่ปุ่นในระดับประเทศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1877 ที่จังหวัด Yamanashi ที่ตั้งอยู่ติดกับจังหวัด Nagano ก่อนจะขยายกิจการมาสู่ Nagano ด้วยไร่องุ่น Mariko (Mariko Vineyard) ในเมือง Ueda โรงผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ตั้งอยู่นอกเมือง มองเห็นวิวไร่องุ่นแบบพาโนรามา และอาศัยประโยชน์จากดินเหนียวอันอุดมสมบูรณ์ของหุบเขาแม่น้ำ Chikuma ในการเพาะปลูก

โรงผลิตไวน์แห่งนี้ผลิตไวน์ระดับพรีเมียมที่มีสไตล์สากล ไม่ว่าจะเป็น Merlot, Syrah, Chardonnay และ Sauvignon Blanc ภายใต้การสนับสนุนจากบริษัทแม่อย่าง Kirin ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เช่น เคาน์เตอร์ชิมไวน์ ร้านจำหน่ายไวน์ และห้องรับรองชมวิว นอกจากนี้ยังมีบริการทัวร์พร้อมไกด์ภาษาอังกฤษ (ต้องจองล่วงหน้า) ซึ่งจะพาเยี่ยมชมสถานที่ ผลิต พร้อมอธิบายประวัติความเป็นมา และความหลงใหลในการทำไวน์ พร้อมกิจกรรมชิมไวน์และอื่น ๆ อีกมากมาย

ในปี 2024 Chateau Mercian กลายเป็นไวน์เนอรี่แห่งเดียวของญี่ปุ่นที่ได้รับเลือกให้ติดอันดับในรายชื่อ World's Best Vineyards ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ซึ่งคัดเลือกโรงผลิตไวน์ที่ดีที่สุดในโลกที่มีส่วนร่วมในด้านการท่องเที่ยวเกี่ยวกับไวน์ และยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นโรงผลิตไวน์ที่ดีที่สุดอันดับที่ 59 ของโลก

เว็บไซต์: Chateau Mercian

พื้นที่ผลิตไวน์บริเวณ Kikyogahara (เมือง Shiojiri)

Izutsu Winery

Izutsu Winery

Izutsu Winery เป็นหนึ่งในสองโรงกลั่นไวน์ทางใต้สุดในรายชื่อแนะนำของเรา โดยตั้งอยู่ใน Kikyogahara เมือง Shiojiri ซึ่งเป็นพื้นที่ผลิตไวน์แห่งแรกของจังหวัด Nagano โรงผลิตไวน์แห่งนี้นับเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัด ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1933 ปัจจุบันบริหารจัดการไร่องุ่นขนาด 19 เฮกตาร์ และผลิตไวน์ได้ประมาณ 800,000 ขวดต่อปี ไวน์ที่ได้รับรางวัลของที่นี่ ได้แก่ Sauvignon Blanc, Chardonnay แบบที่ไม่ได้บ่มในถังไม้โอ๊ก  และ Merlot รสเข้มข้น

Izutsu Winery ตั้งอยู่ริมถนนชนบทนอกเมือง ร้านค้าพร้อมมุมชิมไวน์เดินทางมาได้ง่าย เป็นโอกาสดีสำหรับผู้มาเยือนในการลิ้มลองไวน์รสชาติสดใหม่ เน้นผลไม้ ดื่มง่าย และมีราคาย่อมเยา ที่นี่จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหางานฝีมือที่ผสานความดั้งเดิมเข้ากับความเข้าถึงง่ายได้อย่างลงตัว ในปี 2024 โรงผลิตไวน์แห่งนี้ยังคว้ารางวัลยอดเยี่ยม, รางวัลความคุ้มค่า, เหรียญทอง, เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงจากงานประกวด Japan Wine Competition อีกด้วย

เว็บไซต์: Izutsu Winery (ภาษาญี่ปุ่น)

Goichi Winery

Goichi Winery

 

Hayashi Farm หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Goichi Wine ตั้งอยู่ตรงข้ามของถนนพอดี เป็นโรงผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดของ Nagano และยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไวน์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในจังหวัด ก่อตั้งขึ้นในปี 1911 เมื่อ Goichi Hayashi เริ่มปลูกองุ่นบนพื้นที่รกร้างในพื้นที่ Kikyogahara พวกเขาเริ่มผลิตไวน์ในปี 1919 และเป็นโรงผลิตไวน์แห่งแรกที่นำองุ่น Merlot เข้ามาสู่ภูมิภาคนี้ในช่วงทศวรรษ 1950

Goichi มีไวน์หลากหลายประเภท เช่น Merlot, Chardonnay และ Ryugan ซึ่งเป็นองุ่นท้องถิ่นที่เข้ากันได้ดีกับอาหารญี่ปุ่นอย่างโซบะและผักป่า ไวน์ของ Goichi มักได้รับคำชมในเรื่องความลุ่มลึกของรสชาติ ความคงเส้นคงวา รวมถึงเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ด้วยประสบการณ์และองค์ความรู้ด้านการทำไวน์ที่สั่งสมมากว่ากว่าศตวรรษ ร้านค้าขนาดเล็กที่มีเสน่ห์ มุมชิมไวน์ที่อยู่ติดกัน และไร่องุ่นที่มีต้น Merlot อายุกว่า 70 ปี ต่างก็เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การแวะมาเยี่ยมชม

เว็บไซต์: Goichi Winery (ภาษาญี่ปุ่น)

MENU