
ใบหน้าอันสงบนิ่งของลิงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะกำลังแช่น้ำออนเซ็นได้กลายเป็นกระแสฮือฮาไปทั่วโลก โลกรู้จักลิงเหล่านี้เป็นครั้งแรกจากการแนะนำโดยนิตยสาร Life ของสหรัฐอเมริกา และต่อมาได้กลายเป็นมาสคอตอย่างไม่เป็นทางการของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนในปีค.ศ. 1998 นอกจากนี้ยังปรากฏตัวในสารคดีธรรมชาติที่ผลิตโดย BBC ด้วย ออนเซ็นที่อุ่นร้อนและภูมิประเทศที่ขรุขระของ Jigokudani สร้างฉากหลังอันน่าสนใจให้กับสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาตินี้ เป็นแห่งเดียวในโลกที่คุณจะได้เห็นลิงป่าแช่ออนเซ็น
ลิงแสมญี่ปุ่นซึ่งถูกเรียกด้วยความเอ็นดูว่า "ลิงหิมะ" ดำเนินกิจวัตรประจำวันโดยไม่สนใจปาปารัสซี่ที่อยู่รอบตัว เด็ก ๆ เล่นน้ำในบ่อออนเซ็นอย่างสนุกสนานในขณะที่แม่ ๆ ดูแลลูก ๆ และตัวผู้ที่เป็นผู้นำฝูงก็คอยเฝ้าดูฝูงลิง คุณสามารถสังเกตโครงสร้างทางสังคมที่น่าสนใจของลิงได้จากระยะใกล้ ไม่ใช่เพียงสังเกตผ่านกรงตาข่ายในสวนสัตว์
คู่มือท่องเที่ยว อุทยานลิงภูเขา Jigokudani Yaen-Koen
เกี่ยวกับอุทยาน

อุทยานลิงภูเขา Jigokudani Yaen-Koen ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1964 เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับศึกษาโครงสร้างทางสังคมของลิงแสมญี่ปุ่น บางคนกล่าวว่าอุทยานแห่งนี้สร้างขึ้นหลังจากคนในท้องถิ่นสังเกตเห็นลิงเหล่านี้ปีนเข้าไปในบ่อออนเซ็นของเรียวกังที่อยู่ใกล้เคียง ไม่พบลิงชนิดอื่นใดที่สามารถอาศัยอยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็นและมีหิมะได้เท่ากับลิงแสมญี่ปุ่น และการแช่ออนเซ็นถือเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ลิงเหล่านี้สามารถทนต่อสภาพอากาศอันหนาวเหน็บได้
ฝูงลิงที่อุทยานมีจำนวนกว่า 200 ตัวอาศัยอยู่บริเวณโดยรอบหุบเขา ลิงจะมาที่อุทยานตอนกลางวันเพื่อแช่ออนเซ็น และกินอาหารที่เจ้าหน้าที่ของอุทยานจัดเตรียมไว้ให้ ลิงได้รับอาหารมากพอที่สามารถจูงใจให้ทั้งฝูงแวะมา แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ให้มากเกินไปจนฝูงลิงติดการพึ่งพามนุษย์
อุทยานจะอยู่สุดเส้นทางเดิน ใช้เวลาในการเดิน 30 นาทีผ่านป่าซีดาร์อันงดงามจาก Kanbayashi ที่ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัส 45 นาทีจากสถานี Nagano
ฤดูกาลท่องเที่ยว


ลิงหิมะในฤดูหนาว
อุทยานลิงภูเขา Jigokudani Yaen-Koen เปิดให้บริการตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคมมีหิมะปกคลุมหุบเขา และมักพบเห็นลิงแช่ออนเซ็นที่กลางอุทยาน ในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม คุณจะได้เห็นลูกลิงแรกเกิดเล่นกัน ในฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ป่ารอบอุทยานจะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอันสดใส อย่างไรก็ตาม ฝูงลิงอาจไม่มาที่อุทยานบ่อยเท่ากับฤดูกาลอื่น ๆ
ฝูงลิงไม่ได้มาที่อุทยานทุกวัน ฉะนั้น โปรดตรวจสอบข้อมูลบนช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของอุทยานก่อนเดินทาง
ที่ตั้งและการเดินทาง
อุทยานตั้งอยู่ในหุบเขา Jigokudani ด้านหลังเมือง Yamanouchi สามารถเดินทางด้วยรถยนต์และระบบขนส่งสาธารณะได้ แต่ไม่ว่าอย่างไร สุดท้ายคุณก็จะต้องเดินโดยใช้เวลาราว 30 นาที ทางเดินอาจลื่นได้ง่ายในช่วงฤดูหนาว เราจึงขอแนะนำให้พกรองเท้าบู๊ตสำหรับฤดูหนาวมาด้วยและเช่ายางรัดรองเท้ากันลื่น หรือพกไม้เท้าเดินป่าที่จุดเริ่มต้นเส้นทางเพิ่มมาด้วย
ตั๋ว Snow Monkey แบบ 2 วัน
ผู้ที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เราขอแนะนำให้ใช้ตั๋ว Snow Monkey แบบ 2 วัน ซึ่งครอบคลุมการเดินทางแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง ภายในระยะเวลา 2 วัน สามารถขึ้นรถไฟและรถบัสของ Nagaden ระหว่าง Nagano และ Jigokudani และค่าเข้าอุทยานก็รวมอยู่ในนี้ด้วย
สามารถซื้อตั๋วได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วที่สถานี Nagaden Nagano (สถานี Nagano ชั้น B1)
ราคา
ผู้ใหญ่: 4,000 เยน
เด็ก: 2,000 เยน
ด้านล่างคือการเดินทางจากสถานี Nagano ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางไปอุทยานลิงภูเขาแบบละเอียดที่นี่.
โดยระบบขนส่งสาธารณะ
จากเมือง Nagano มีสองวิธีในการเดินทางไปยังอุทยาน วิธีที่ง่ายที่สุดคือการขึ้นรถบัสสาย Shigakogen จากทางออกประตูตะวันออกของสถานี Nagano (45 นาที / 2,000 เยน) เมื่อลงรถบัสที่ป้าย Snow Monkey Park ให้เดินต่อไปยังอุทยานอีก 35 นาที
คุณสามารถขึ้นรถไฟสาย Nagano Dentetsu (ชั้น B1 ของสถานี Nagano) ไปยังสถานี Yudanaka (45 นาที / 1,590 เยน) จากนั้นขึ้นรถบัสประจำทางจากสถานีรถไฟมาลงที่ป้ายรถบัส Snow Monkey Park (8 นาที / 390 เยน)
โดยรถยนต์
ลานจอดรถสำหรับอุทยานอยู่ห่างจากทางออก Shinshu Nakano IC ของทางด่วน Joshin-etsu ประมาณ 22 นาที (15 กม.) ลานจอดรถอยู่ติดกับ Enza Cafe (โทร. 0629-38-1736) ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง จะมีลานจอดรถที่ใกล้กว่าอีกแห่งเปิดให้บริการ (โทร. 0269-33-5733) ค่าจอดรถที่ลานจอดรถ 500 เยน
เวลาทำการและค่าเข้าชม
อุทยานเปิดตลอดทั้งปีและไม่มีวันหยุดประจำ แต่ในกรณีที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยหรือในกรณีที่ฝูงลิงไม่ลงมาที่บ่ออนเซ็น อุทยานอาจจะปิดในวันนั้น สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดตรวจสอบเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของอุทยาน และช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
เวลาทำการ
Green Season (เม.ย. - ต.ค.): 8.30 น. - 17.00 น.
Winter Season (พ.ย. - มี.ค.): 9.00 น. - 16.00 น.
*ฤดูกาลเป็นเพียงการประมาณการ
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่: 800 เยน
เด็ก: 400 เยน
*ดูราคาสำหรับกลุ่มในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของอุทยาน
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ที่ราบสูง Shiga Kogen

ระเบียง Manten View Terrace บนภูเขา Yokote ในฤดูร้อน

เดินป่าบนเส้นทาง Ikemeguri

สีสีนแห่งฤดูใบไม้ร่วงรอบบึง Onuma

เล่นสกีที่ Shiga Kogen ในฤดูหนาว
ที่ราบสูง Shiga Kogen ตั้งตระหง่านเหนือเมือง Yamanouchi และ Jigokudani โดยมีความสูงกว่า 2,000 เมตร ในช่วงฤดูหนาวที่นี่ถือเป็น สกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยเปิดให้เล่นสกีและสโนว์บอร์ดตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม สำหรับผู้ที่ไม่เล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด ที่นี่มีทัวร์สโนว์ชูผ่านที่ราบและป่าไม้ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตั้งแต่เดือนมกราคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม
ในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง Shiga Kogen มีเส้นทางเดินป่าและปีนเขามากมาย รวมถึงระเบียงชมวิวอันงดงามให้คุณชื่นชมทิวทัศน์ของภูเขา ถนนสาย Shiga-Kusatsu หนึ่งในเส้นทางขับรถที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ Nagano และเป็นถนนทางหลวงที่อยู่บนระดับความสูงอันดับต้น ๆ ของประเทศ เป็นถนนสายที่ทอดผ่าน Shiga Kogen เชื่อมต่อกับเมืองออนเซ็น Yamanouchi และ Kusatsu
สามารถชมสีสันฤดูใบไม้ร่วงอันสดใสได้รอบ ๆ Shiga Kogen ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม
การเดินทาง
จากป้ายรถบัส Snow Monkey Park ขึ้นรถบัสสาย Shiga Kogen มาลงป้ายที่คุณต้องการใน Shiga Kogen (35 - 70 นาที)
ระเบียง Ryuoo Sora Terrace

ทะเลหมอกใต้ระเบียง Sora Terrace

กระเช้า Ryuoo Ropeway

วิวพระอาทิตย์ตก
ระเบียง Sora terrace ความสูง 1,770 เมตร ตั้งอยู่บนสถานีโรปเวย์บนสุดของ Ryuoo Ski Park มีทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาโดยรอบ รวมถึงภูเขา Kosha และ Hokushin Gogaku (ภูเขา Iizuna, Kurohime, Togakushi, Madarao และ Myoko) เมื่อสภาพอากาศเหมาะสม เมฆจะปกคลุมหุบเขาเบื้องล่างจนหมด กลายเป็นทะเลหมอกกว้างใหญ่ที่คั่นด้วยยอดเขาหิน ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Unkai ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งพบเห็นได้เป็นประจำที่นี่ มีอัตราการได้พบปรากฏการณ์ 63.5% ของวันที่ระเบียงเปิดทำการ
การเดินทาง
จากป้ายรถบัส Snow Monkey Park ขึ้นรถบัสมาลงป้าย Yudanaka จากนั้นขึ้นรถรับส่ง Ryuoo ไปยังสกีรีสอร์ท Ryuoo ตรวจสอบตารางเวลารถรับส่งได้ที่นี่ (แปลอัตโนมัติ).
ถนนเปี่ยมเสน่ห์และพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมือง Obuse

พิพิธภัณฑ์ Hokusai

ถนนเกาลัดแห่งเมือง Obuse

ภาพวาด “Happo Nirami Ho’oh-zu” ที่วัด Gansho-in Temple
เมือง Obuse ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำ Chikuma เฟื่องฟูทางด้านการค้าและการเกษตร รายล้อมไปด้วยทุ่งเกาลัด, สวนแอปเปิล และนาข้าว และเต็มไปด้วยโกดังที่เก็บสินค้าที่ก่อด้วยกำแพงดิน มีร้านกาแฟและร้านอาหารเก๋ ๆ มากมาย
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบางส่วนของเมือง Obuse ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ Hokusai และวัด Gansho-in ศิลปินนามว่า Katsushika Hokusai เป็นที่รู้จักจากผลงาน "คลื่นยักษ์นอกฝั่งคานากาว่า" (The Great Wave off Kanagawa) อันโด่งดัง Hokusai ใชชีวิตหลายปีที่เมือง Obuse ในช่วงบั้นปลายชีวิตของเขา พิพิธภัณฑ์ Hokusai ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ศิลปินลือนามผู้นี้ และวัด Gansho-in ได้มีจัดแสดงผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีชีวิตชีวาที่สุดชิ้นหนึ่งของเขา นั่นก็คือภาพ "Happo Nirami Ho'oh-zu"
การเดินทาง
จากป้ายรถบัส Snow Monkey Park ขึ้นรถประจำทางสายท้องถิ่นมาลงที่ป้าย Yudanaka (15 นาที) จากนั้นขึ้นรถไฟสาย Nagaden มาลงที่สถานี Obuse (25 - 45 นาที)
วัด Zenkoji และ Togakushi ในเมือง Nagano

วัด Zenkoji

ประตู Zuishinmon ของศาลเจ้า Togakushi

บึง Kagami ใน Togakushi

โรงเรียนศิลปะ, วรรณกรรม และการทหาร แห่ง Matsushiro (Matsushiro Literary and Military Academy)
เมือง Nagano เป็นประตูสู่จังหวัด Nagano และอุทยานลิงภูเขา Jigokudani Yaen-Koen ไหน ๆ คุณก็ต้องผ่านเมือง Nagano อยู่แล้ว ลองแวะชมสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองด้วยจะช่วยเติมเต็มทริปนี้ของคุณให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เมือง Nagano เป็นที่ตั้งของวัด Zenkoji อันโด่งดัง ตลอดจนป่าศักดิ์สิทธิ์ Togakushi และเมืองซามูไร Matsushiro
การเดินทาง
วัด Zenkoji อยู่ห่างจากสถานี Nagano ใช้เวลาเดิน 20 นาที หรือนั่งรถบัส 10 นาที
Togakushi อยู่ห่างจากสถานี Nagano 70 นาทีโดยรถบัส
เมือง Matsushiro อยู่ห่างออกไปประมาณ 30 นาทีโดยรถบัสสาย Matsushiro
ที่พัก

อุทยานลิงภูเขา Jigokudani Yaen-Koen ตั้งอยู่นอกเมืองออนเซ็น Yamanouchi หลังชมฝูงลิงแช่ออนเซ็นร้อน ๆ แล้ว คุณสามารถกลับมาที่ Yudanaka-Shibu Onsen เพื่อแช่ออนเซ็นผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้ที่โรงอาบน้ำแห่งใดแห่งหนึ่งภายในเมือง หากคุณพักที่โรงแรมในย่านนี้ คุณก็จะได้สวมชุดยูกาตะ ใส่รองเท้าเกี๊ยะญี่ปุ่น เดินผ่านถนนเพื่อไปเพลิดเพลินไปกับโรงอาบน้ำสาธารณะทั้ง 9 แห่งในเมืองได้ พื้นที่แห่งนี้เป็นย่านที่พักออนเซ็นมานานหลายร้อยปี มีเรียวกังหลายชั้นสวย ๆ ที่สร้างด้วยไม้ หนึ่งในเรียวกังนั้นยังถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจให้กับโรงอาบน้ำในภาพยนตร์เรื่อง “Spirited Away” ของ Studio Ghibli อีกด้วย