หุบเขา Hakuba

หุบเขา Hakuba ตั้งอยู่ที่เชิงเขาแอลป์ญี่ปุ่น เป็นสวรรค์ของนักกิจกรรมกลางแจ้งที่สามารถเล่นตลอดทั้งปี ซึ่งในช่วงฤดูหนาวสกีรีสอร์ท 10 แห่งของที่นี่จะเปิดให้เล่นสกีที่มีหิมะละเอียดแบบปุยแป้งและกิจกรรมบนหิมะที่หลากหลายอื่น ๆ ได้ และเมื่อหิมะละลายแล้วก็จะสามารถปั่นจักรยานเสือภูเขา, ล่องแก่ง, ร่มร่อนพาราไกลดิง, การผจญภัยในป่าแบบสุดขีด และอื่น ๆ อีกมากมายได้ด้วยเช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่จะได้เห็นแน่นอนคือการที่สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ภูเขาที่สวยงามของ Hakuba ได้ทุกช่วงเวลาของปีนั่นเอง

17973_ext_01_th_0_L-1

รีสอร์ทฤดูหนาวที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกเป็นแห่งแรก ๆ ของญี่ปุ่น

ในฐานะที่ Nagano ได้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1998 จึงได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น และได้รับการยกย่องอย่างมากในเรื่องหิมะที่ละเอียดเหมือนผงแป้ง (ปริมาณหิมะโดยเฉลี่ยสูงถึง 11 เมตรต่อปี) มีรีสอร์ท 10 แห่งที่รวมลานสกีไว้มากกว่า 200 เส้นทาง Hakuba จึงมีกิจกรรมอย่างหลากหลายให้สำหรับทุกคนเพื่อให้คุณเพลิดเพลินเต็มที่ รีสอร์ท, โรงแรม และโรงเรียนสอนสกีให้การรองรับหลายภาษา ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางระดับนานาชาติอย่างแท้จริง

สกีรีสอร์ทของ Hakuba

Hakuba Goryu
Hakuba 47
Hakuba Happo One
Iwatake Snow Field
Tsugaike Kogen Ski Resort
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Hakuba Norikura
Hakuba Cortina
Kashimayari
Hakuba Sanosaka
Jiigatake

กิจกรรมหลังเล่นสกี (Apres), เที่ยวกลางคืน และอื่น ๆ

เสน่ห์อีกแง่มุมของ Hakuba ก็คือตัวเลือกกิจกรรมมากมายหลังการเล่นสกีที่เรียกว่า Après เนื่องจากที่ Hakuba ยังเป็นที่ตั้งของบ่อออนเซ็นมากมายให้แช่ตัวหลังจากจบวันที่แสนยาวนานจากการเล่นสกีบนเนินเขา ซึ่งในหมู่บ้านก็มีร้านอาหารและบาร์ที่เหมาะกับอารมณ์และรสนิยมของทุกคน ส่วนสำหรับวันที่ไม่ได้เล่นสกียังสามารถทัวร์เที่ยวชมเมืองที่อยู่ใกล้เคียงอย่างเมือง Matsumoto, เมือง Nagano หรือลิงหิมะที่สวน Jigokudani Yaen-Koen ได้อีกด้วย

ออนเซ็นของ Hakuba มักถูกเรียกว่า "Bijin no Yu" หรือออนเซ็นแห่งความงาม เนื่องจากแร่ธาตุของออนเซ็นเหล่านี้นั้นดีต่อผิวนั่นเอง แม้ว่าไม่ได้ต้องการแช่ให้มีผิวที่สวยขึ้น แต่การแช่ตัวในบ่อออนเซ็นธรรมชาติก็ยังมีคุณประโยชน์อีกด้วยอย่างเช่นจะทำให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้นทั้งภายในและภายนอกได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองออกไปชมพระอาทิตย์ตกเหนือเทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่นนั่นเอง

การเดินทางไปร้านอาหารและบาร์รอบ ๆ Hakuba นั้นก็ทำได้อย่างง่ายดายด้วยรถรับส่งช่วงกลางคืนที่วิ่งวนทั่วหมู่บ้าน ซึ่งที่นี่สามารถหาอะไรรับประทานก็ได้ตั้งแต่อาหารแม็กซิกันไปจนถึงอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เนื่องจาก Hakuba ตั้งอยู่ใกล้เมืองชายทะเลของ Itoigawa มีอาหารทะเลสด, ข้าวท้องถิ่นแสนอร่อย และน้ำใสสะอาดที่ใช้ในการผลิตสาเกและเบียร์ชั้นดีได้ ลองมาลิ้มรสกับรสชาติอาหารของ Hakuba และญี่ปุ่นกันได้ที่นี่

สถานที่ที่สามารถผจญภัยได้ตลอดทั้งปีและวิวภูเขาที่ทำให้เบิกบานใจ

ภูเขา Hakuba Sanzan เมื่อมองจากบึง Happo

ในขณะที่หิมะละลายจากยอดเขาและไหลเข้าสู่หุบเขาเบื้องล่าง ฤดูกาลแห่งการผจญภัยครั้งใหม่ก็จะเริ่มต้นขึ้นในหุบเขา Hakuba

ซึ่งก็คือฤดูใบไม้ผลิที่จะนำซากุระที่สวยงามตัดกับยอดเขาที่ยังคงมีสีขาวของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น, แม่น้ำไหลเชี่ยวด้วยน้ำที่ใสสะอาดและเหมาะสำหรับทริปล่องแก่งที่น่าตื่นเต้น, เส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route เป็นประตูที่เปิดไปสู่เขื่อน Kurobe และกำแพงหิมะอันงดงามใน Murodo และสกีรีสอร์ทยังคงเปิดให้บริการจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมนั่นเอง

ต่อมาในฤดูร้อน Hakuba จะกลายเป็นสวรรค์สำหรับนักปีนเขาและผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งสถานที่ตั้งแคมป์เปิดขึ้นริมแม่น้ำและเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการออกเที่ยวนอกบ้านของครอบครัว จะมีเส้นทางเดินป่ายอดนิยม เช่น Hakuba Daisekkei และบึง Happo เปิดต้อนรับผู้มาเยือน ส่วนในช่วงปลายฤดูร้อน สกีรีสอร์ทจะเต็มไปด้วยนักปั่นจักรยานเสือภูเขา และเมื่อถึงช่วงที่อากาศร้อนจัด ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเดินทางสำรวจหุบเขาลึกผ่านน้ำทะเลที่ใสดุจคริสตัลในหุบเขาบนภูเขาอีกแล้ว

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงมากมาย เช่น เมือง Matsumoto และปราสาท Matsumoto, Daio Wasabi Farm หรือทัวร์สวนลิงหิมะทางตอนเหนือ ในช่วงฤดูหนาวสามารถขยายวันหยุดในการเล่นสกีด้วยการเดินทางไปยังรีสอร์ทฤดูหนาวที่สวยงามอื่น ๆ ของจังหวัด Nagano เช่น สกีรีสอร์ท Nozawa Onsen และ Shiga Kogen

การเดินทางสู่ Hakuba

โดยระบบขนส่งสาธารณะ

จากสนามบิน Haneda และ Narita

ขึ้นรถ Nagano Snow Shuttle

จากสถานี Nagano

ขึ้นรถบัส Hakuba จากทางออกทิศตะวันออกของสถานี Nagano

 จากสถานี Matsumoto

ขึ้นรถไฟ JR Oito Line หรือขึ้นรถบัสสาย Matsumoto-Hakuba

โดยรถยนต์

ลงที่ทางออก Azumino IC ของทางด่วน Chuo Expressway จากนั้นใช้เวลา 1.5 ชั่วโมง หากอยู่บนทางด่วน Joshin-etsu Expressway ให้ลงที่ทางออก Nagano IC จากนั้นใช้เวลา 1 ชั่วโมง

よく読まれている人気記事

MENU