เมื่อไปสัมผัสวัฒนธรรมในต่างประเทศต้องไม่พลาดที่จะลิ้มรสอาหารท้องถิ่นและเครื่องดื่มในขณะที่คุณอยู่ที่นั่น ที่ญี่ปุ่นมีอาหารอร่อย ๆ มากมาย เช่น ซูชิ ราเม็ง เทมปุระ และอีกอย่างก็คือสาเก

สาเกถูกเรียกว่า Nihonshu ในภาษาญี่ปุ่น ถือเป็นเครื่องดื่มลึกลับ มักเรียกกันในภาษาอังกฤษว่าไวน์ข้าว แต่ดูเหมือนชื่อนั้นจะไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่ เพราะมันดูไม่เหมือนไวน์และก็ไม่ได้มีรสชาติเหมือนไวน์ด้วย เป็นเครื่องดื่มที่มีความเป็นตัวของตัวเองอย่างสมบูรณ์ คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างไร? แน่นอนว่าต้องด้วยการดื่มสิ!

ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์ในการชิมสาเกมาก่อนหรือไม่ ก็สามารถเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับสาเกได้โดยการชิมจากแหล่งผลิต มีโรงผลิตสาเกของญี่ปุ่นหลายแห่งที่ผลิตสาเกอันซับซ้อนนี้มานานหลายศตวรรษและสามารถให้ความกระจ่างแก่คุณ ทั้งเรื่องรูปแบบและรสชาติที่หลากหลายของสาเกตั้งแต่สาเก Daiginjo ที่หรูหราไปจนถึงสาเก Karakuchi ที่มีรสชาติซาบซ่าน

Nagano มีโรงผลิตสาเกกว่า 80 แห่งซึ่งเป็นจำนวนที่สูงเป็นอันดับสอง 2 ของญี่ปุ่น คุณสามารถลิ้มรสรสชาติท้องถิ่นที่ถูกปรุงขึ้นโดยใช้เวลาในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ข้อมูลด้านล่างที่จะแนะนำนี้คือโรงผลิตสาเกและร้านค้าที่คุณสามารถลิ้มลองสาเกที่อร่อยที่สุดของจังหวัดได้

ลิ้มรสสาเกที่โรงผลิตสาเกหลายแห่งใน Nagano

โรงผลิตสาเก Endo (เมือง Suzaka)

โรงผลิตสาเก Endo ก่อตั้งขึ้นในปี 1864 เป็นโรงผลิตสาเกที่สวยงามในเมือง Suzaka ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องเหล้าสาเกยี่ห้อ Keiryu คุณสามารถหาซื้อได้ง่ายในร้านสะดวกซื้อทั่วเมือง Nagano โดยห่อด้วยหนังสือพิมพ์อันเป็นสัญลักษณ์ ยี่ห้อ Keiryu ได้รับรางวัลมากมายจาก International Taste & Quality Institute รวมถึง Diamond Taste Award (จากการได้รับรางวัล Superior Taste Award เป็นเวลา 7 ปี)

ในร้านที่ Suzaka มีสาเกให้เลือกชิมมากมาย ถ้าลองทั้งหมดคุณอาจจะไม่ได้ทำออกจากร้านเลย! แม้ว่าพนักงานอาจไม่เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ แต่ก็ยินดีที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ยอดนิยมและรินเหล้าให้คุณได้ลิ้มลอง

อีกแง่มุมหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่คุณไม่คาดคิดว่าจะพบในโรงผลิตสาเกคือเครื่องหมุนกาชาปอง มีหลายร้านที่ขายสินค้าของ Keiryu และสาเกด้วย ด้วยเงิน 300 เยนคุณอาจจะได้รับรางวัลเป็นสาเกขวดใหญ่ของโรงผลิตสาเก Endo

โรงผลิตสาเก Masuichi (Obuse)

โรงผลิตสาเก Masuichi ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Obuse ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์เมืองบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดังเดิม คาเฟ่สุดเก๋ และพิพิธภัณฑ์ อาจเป็นเพราะอิทธิพลของศิลปะในอดีตของ Obuse ประธานของโรงผลิตสาเก Masuichi จึงเอาใจใส่เรื่องการสร้างสรรค์สาเกของเขาไม่แพ้กับประวัติศาสตร์ของมัน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Masuichi ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สาเกหลากชนิดที่ยังยังยึดมั่นกับต้นกำเนิดจากอดีตจากแท้จริง

ที่ Masuichi คุณจะได้เพลิดเพลินกับการชิมสาเกที่บาร์อันมีสไตล์ด้านหลังร้าน ด้านหลังผนังกระจกสูงจากพื้นจรดเพดานเผยให้เห็นถังไม้สนซีดาร์ขนาดใหญ่หลายถังที่ใช้ในการหมักเหล้าสาเกของ Masuichi การชิมนั้นไม่ฟรี แต่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศหรูหราคุ้มค่าคุ้มราคา

ในขณะที่อยู่ใน Obuse คุณอาจจะอยากไปเยี่ยมชมโรงผลิตสาเก Matsubaya ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ช่วงถนน หรือไปที่โรงผลิตสาเก Yonekawa ซึ่งตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของสถานีก็ได้

โรงผลิตสาเก Miyasaka และ Suwa Go-kura (เมือง Suwa)

โรงผลิตสาเก Miyasaka ตั้งอยู่ในเมือง Suwa ทำสาเกมาตั้งแต่ปี 1662 โดยใช้น้ำแร่จากพื้นที่สูงที่อยู่ใกล้เคียงและข้าวในท้องถิ่นที่สดใหม่ Miyasaka ได้ผลิตสาเกที่สร้างความประทับใจให้กับขุนนางและซามูไรมานานหลายศตวรรษ สาเกที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดมีชื่อว่า Masumi

แต่ไม่ใช่เพียงประเพณีที่เป็นหัวใจสำคัญของ Miyasaka เท่านั้น แต่การแข่งขันอย่างเป็นมิตรยังมีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของโรงผลิตสาเก ในการผลิตสาเกที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น พวกเขาได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ผลิตสาเกรายอื่น ๆ ทั่วประเทศเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับงานของพวกเขา ตอนนี้ชื่อเสียงของ Miyasaka ในเรื่องสาเกรสเลิศได้แพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่นและดังไปถึงประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

ที่ร้านสวย ๆ แห่งนี้ คุณสามารถลิ้มรสสาเกที่ดีที่สุดได้หลายชนิดด้วยความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาเกที่พูดภาษาอังกฤษได้ สามารถอธิบายความแตกต่างของรสชาติและการผลิตของแต่ละชนิดได้

ใกล้ ๆ กับ Miyasaka มีโรงผลิตสาเกอีก 4 แห่งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงผลิตสาเก Go-kura ของ Suwa ให้คุณได้เพลิดเพลินกับเหล้าสาเกได้ เชิญมาเยี่ยมชมทั้ง 5 แห่งและรับรสชาติที่แท้จริงของพื้นที่นี้

โรงผลิตสาเก Tamamura Honten (Yamanouchi)

นอกพื้นที่แหล่งออนเซ็น Shibu Onsen ของ Yamanouchi มี Tamamura Honten ตั้งอยู่ ที่นี่เป็นโรงผลิตสาเกที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1805 สาเกที่ผลิตที่นี่ด้วยน้ำสะอาด อากาศที่ปลอดโปร่ง และภูมิอากาศเย็นจึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนในพื้นที่มานานหลายศตวรรษ

ในปี 2004 Tamamura เริ่มผลิตเบียร์ของตัวเองโดยตั้งชื่อตามที่ราบสูงใกล้เคียงของ Shiga Kogen และปัจจุบันเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาล Snow Monkey Beer Live ประจำปี ซึ่งโรงเบียร์ยอดฝีมือจากทั่วญี่ปุ่นมารวมตัวกันในช่วงเดือนมีนาคมเพื่ออวดเบียร์ใหม่ของตัวเอง

ลิ้มรสสาเกจากทั่ว Nagano ที่ Shinshu Kuraudo

หากคุณมีเวลาไม่มากก่อนที่จะเดินทางกลับ Tokyo แวะจิบเครื่องดื่มที่บาร์ Shinshu Kuraudo ในห้างสรรพสินค้า Midori ของสถานี Nagano ได้ ที่บาร์มีเหล้าสาเกและไวน์ท้องถิ่นของ Nagano ที่ได้รับการคัดสรรมาแล้ว รวมถึงของว่างเบา ๆ หลายประเภทที่เข้ากันได้ดีกับเหล้า

ลิ้มลองเซ็ทสาเก 3 ชนิดอันเป็นที่รักของชาว Nagano พร้อมไก่ย่างสมุนไพรหรือผักดองหมักมิโซะ หากต้องการดื่มไวน์แทน ก็สามารถลิ้มรสเมนูชีสแสนอร่อยได้

หากพบเหล้าที่ตัวเองชอบในบาร์ ก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายของที่ระลึกด้านหลัง

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเก

คู่มือฉบับย่อนี้จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้เพื่อเพลิดเพลินไปกับการจิบสาเกแต่ละครั้งได้อย่างมีอรรถรสมากขึ้น

ประเภทของสาเก

สาเกประเภทต่าง ๆ ที่คุณอาจจะได้พบ:

Junmai Sake (純米): สาเกที่ทำโดยไม่ต้องเติมแอลกอฮอล์จากโรงผลิตสาเก มีอัตราส่วนการขัดสีข้าว (อัตราส่วนของข้าวที่เหลือหลังจากขัดสี) 70% หรือต่ำกว่า
Honjozo Sake (本醸造): สาเกที่ทำจากการเติมแอลกอฮอล์จากโรงผลิตสาเกลงไปเล็กน้อย (เป็นวิธีดั้งเดิมในการต้มแอลกอฮอล์) มีอัตราส่วนขัดสีข้าว 70% หรือต่ำกว่า
Ginjo Sake (吟醸): มีอัตราส่วนการขัดสีข้าว 60% หรือต่ำกว่า
Daiginjo Sake (大吟醸): มีอัตราส่วนการขัดสีข้าว 50% หรือต่ำกว่า
Nama-zake (生酒): สาเกที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์เพียงครั้งเดียวในระหว่างกระบวนการผลิต มีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นกว่า แต่อายุการเก็บรักษาสั้นกว่า
โดยทั่วไปแล้ว Ginjo และ Daiginjo จะมีการเติมแอลกอฮอล์จากโรงผลิตสาเกลงไปเล็กน้อยเหมือน Honjozo หากไม่มีการเติมจะถูกระบุว่าเป็น Junmai Ginjo หรือ Junmai Daiginjo

สำหรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการทำสาเก โปรดดูคู่มือของ Japan Sake and Shochu Makers Association และหากคุณมีคำถามเกี่ยวกับ Nagano อย่าลังเลที่จะถามเราได้ในช่องความคิดเห็นด้านล่าง!