สุดยอดจุดชมซากุระใน Nagano ที่คุณห้ามพลาด

พบกับสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมซากุระ ในบรรยากาศของปราสาทเก่าแก่ ไปจนถึงสวนอันงดงาม ใกล้เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น

ซากุระ คือสัญลักษณ์ประจำฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูซากุระบาน ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนในญี่ปุ่นก็ตาม คุณจะได้ชมสวนที่ถูกปกคลุมไปด้วยต้นซากุระ ชั้นวางสินค้าต่าง ๆ ที่ถูกประดับตกแต่งด้วยธีมของซากุระ แม้แต่ขนมและเครื่องดื่มต่าง ๆ ก็จะถูกเปลี่ยนให้เป็นสีชมพู รวมไปถึงมีการออกรสชาติใหม่ “รสซากุระ” เป็นสินค้าพิเศษที่วางจำหน่ายเฉพาะช่วงเวลาจำกัด เพื่อต้อนรับฤดูกาลซากุระอีกด้วย

ที่ Nagano เองก็เช่นเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น ซากุระที่อยู่บริเวณตีนเขาที่ยังคงมีหิมะปกคลุมอยู่ จะบานตลอดเดือนเมษายน ใครจะไปคิดว่าเราสามารถชมภาพวิวซากุระไปพร้อม ๆ กับวิวหิมะได้?

พบกับจุดชมซากุระที่ดีที่สุดของ Nagano ได้ที่นี่!

1. สวนสาธารณะซากปราสาททาคาโตะ (Takato Castle Park) ที่เมือง Ina

ต้นซากุระที่ปราสาท Takato ถูกกล่าวว่าเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

จะกล่าวว่าสวนสาธารณะซากปราสาททาคาโตะเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดในจังหวัด Nagano ก็ว่าได้ (อีกทั้งที่นี่ยังเป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย) ด้วยเอกลักษณ์ที่แตกต่าง Takato-kohigan ความหลากหลายของต้นไม้ ได้ถูกกล่าวว่าเป็น 1 ในที่ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เนื่องจากความหนาแน่นของกิ่งก้านของต้น และสีชมพูอ่อน ระหว่างช่วงที่ซากุระบานเต็มที่ ดอกไม้จะบานแน่นจนมองขึ้นไปไม่เห็นท้องฟ้า คุณต้องลองไปชมด้วยตาของคุณเอง

หากคุณมาที่นี่แล้ว ต้องห้ามพลาดโซบะสไตล์ Takato ที่เสิร์ฟพร้อมมิโสะย่าง

รายละเอียด

ช่วงที่ชมซากุระได้สวยที่สุด:กลางเดือนเมษายน

สถานที่: เมือง Ina ตอนใต้ของจังหวัด Nagano

การเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี Ina แล้วลงที่ป้าย Takato sta. ตรวจสอบตารางเดินรถบัสได้ที่ด้านล่าง (520 เยน / เที่ยว)

2. สวนซากปราสาท Komoro Kaikoen ที่เมือง Komoro

ประตู San-no-mon ของสวน Kaikoen และกำแพงหิน คือสองซากปราสาทสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่จากปราสาท Komoro

สวน Kaikoen เป็นอีก 1 ใน 100 จุดชมซากุระของญี่ปุ่น ที่นี่มีซากปราสาท Komoro ที่แต่เดิมสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรต 1400 ตัวปราสาทส่วนใหญ่ถูกทำลายจนหมดเหลือเพียง ประตู และ กำแพงหิน เท่านั้นที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งชาติ เมื่อคุณก้าวเท้าเข้ามาในสวน คุณจะรู้สึกราวกับว่าได้ก้าวเข้ามาในเขาวงกต นั่นเป็นเพราะว่าปราสาทแห่งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสับสนให้แก่ศัตรูนั่นเอง

หลังจากชมซากปราสาทแล้วยังมี ออนเซ็นที่อยู่บนความสูง 1000 เมตร รอให้คุณได้ผ่อนคลายต่อ

รายละเอียด

ช่วงที่ชมซากุระได้สวยที่สุด:ปลายเดือนเมษายน

สถานที่: เมือง Komoro ทางทิศตะวันออกของจังหวัด Nagano

การเดินทาง: สวนแห่งนี้อยู่ติดกับสถานี Komoro คุณจึงสามารถนั่งรถไฟสาย Shinano จากสถานี Nagano มาลงที่สถานี Komoro ได้โดยใช้เวลาประมาณ 60 นาที การเดินทางจาก Tokyo: นั่งรถไฟชินคันเซ็น Hakutaka หรือ Asama มาลงที่สถานี Karuizawa ใช้เวลาประมาณ 60 นาที จากนั้นเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟสาย Shinano และลงที่สถานี Komoro ใช้เวลาประมาณ 25 นาที

3. สวน Garyu Koen เมือง Suzaka

ซากุระที่สวน Garyu จะสวยเป็นพิเศษในเวลากลางคืน

สวนแห่งนี้ ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระของญี่ปุ่น คุณจะเข้าใจได้ทันทีว่าทำไม? เพราะว่าที่นี่มีซากุระมากถึง 14 สายพันธุ์ ตั้งแต่พันธุ์ Edo Kohigan ไปจนถึง Shidare-zakura (ซากุระพันธุ์ที่กิ่งห้อยลงมาเหมือนสายน้ำตก) และเงาซากุระที่สะท้อนอยู่บนบ่อน้ำด้านล่าง มีการจัดแสดงไฟ Light-up ต้นซากุระในเวลากลางคืน ท่ามกลางร้านอาหารแผงลอยสไตล์เทศกาลญี่ปุ่น เช่น Takoyaki, ไก่ทอด และ Yakisoba

ก่อนที่จะไปชมสวนในเวลากลางคืน ต้องไม่พลาดแวะ ที่ถนน Suzaka ถนนที่ยังคงเหลือร่องรอยประวัติศาสตร์ของเมือง Suzaka ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งไหม (Silk town) และคุณจะได้ชมสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของเมือง และอาคารที่มีกำแพงดิน หากคุณชื่นชอบการดื่มสาเก ต้องห้ามพลาดแวะชมโรงกลั่นเหล้า Suzaka’s Endo Brewery หากเดินเล่นจนเหนื่อย สามารถนั่งพัก จิบกาแฟได้ที่ Guest house Kura

รายละเอียด

ช่วงที่ชมซากุระได้สวยที่สุด: กลางเดือนเมษายน

สถานที่: เมือง Suzaka ตอนเหนือของจังหวัด Nagano

การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Dentetsu จากสถานี Nagano มาลงที่สถานี Suzaka จากนั้นเดินต่อ 20 นาที หรือนั่ง Taxi 5 นาที หรือนั่งรถบัส 10 นาที ในกรณีนั่งรถบัส ให้คุณลงที่ป้าย Garyukoen หรือ ป้าย Garyukoen Iriguchi (200 เยน)

4. ซากปราสาท Ueda เมือง Ueda

ประวัติศาสตร์ของปราสาท Ueda ได้รับถ่ายทอดอย่างทรงเกียรติผ่านละครโทรทัศน์เรื่อง “Sanada Maru” ทางช่อง NHK ในปี 2016

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปราสาท Ueda ได้รับความสนใจอย่างมากในฐานะที่เป็นฐานที่มั่นของตระกูล Sanada ที่มี Sanada Yukimura เป็นตัวละครหลักของละครเรื่อง “Sanada Maru” ทางช่อง NHK ในปี 2016 หากคุณได้ลองเดินเข้าไปท่ามกลางซากปราสาท Ueda แล้วละก็ คุณจะได้ชมต้นซากุระสวย ๆ ที่อยู่มาตั้งแต่ต้นสมัยโชวะ หรือราว 100 ปี

ใกล้กัน ยังมีถนนสายประวัติศาสตร์ที่ได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี มีร้านเบเกอรี่อร่อย ๆ ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ นักท่องเที่ยวยังสามารถค้างคืนได้ที่ Bessho Onsen ที่นั่งรถไฟต่อไปอีกเล็กน้อยจากเมือง Ueda

รายละเอียด

ช่วงที่ชมซากุระได้สวยที่สุด: ต้น-กลางเดือนเมษายน

สถานที่: เมือง Ueda ทิศตะวันออกของจังหวัด Nagano

การเดินทาง: นั่งรถบัส the Ueda Machinaka bus จากสถานี Ueda มาลงที่ป้าย Koen Kita รถบัสจะวิ่งผ่านทุกครึ่งชั่วโมงตั้งแต่เวลา 9:00 – 17:00 น. (100 เยน/ เที่ยว)

5. ปราสาท Matsumoto เมือง Matsumoto

สมบัติแห่งชาติ ปราสาท Matsumoto เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระอันโด่งดัง

ในขณะที่ซากุระของปราสาท Matsumoto ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ใน 100 อันดับจุดชมซากุระของญี่ปุ่น ทว่า ที่นี่เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญยิ่งของจังหวัด Nagano ก็ว่าได้ อีกทั้งยังมีวิวเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นอันสวยงาม หากคุณมา Nagano เป็นครั้งแรก ปราสาท Matsumoto เป็นที่ที่คุณต้องมาชมด้วยตาของคุณเอง นับว่า มาเที่ยว 1 ที่ ได้ดูถึง 3 วิว (ปราสาท Matsumoto เทือกเขาแอล์ป ซากุระ)

และต้องไม่ลืมแวะ ถนน Nakamachi-dori และ ถนน Nawate-dori ที่อยู่ใกล้กัน

รายละเอียด

ช่วงที่ชมซากุระได้สวยที่สุด: Mid-April

สถานที่: เมือง Matsumoto ตอนกลางของจังหวัด Nagano

การเดินทาง: เดิน 15 นาทีจากสถานี Matsumoto

6.วัด Kozenji เมือง Komagane

ซากุระพันธุ์ที่กิ่งห้อยลงมาเหมือนสายน้ำตกที่วัด Kozenji มีการจัดการแสดงไฟตอนกลางคืนกับวิวเทือกเขาแอลป์ตอนใต้สุดตระการตา

วัดใหญ่ในเมือง Komagane แห่งนี้มีชื่อเสียงไปทั่วตอนใต้ของจังหวัด Nagano ในเรื่องของสถาปัตยกรรมแสนวิจิตร ความเงียบสงบและวิวธรรมชาติอันสวยงาม สองข้างถนนที่มุ่งตรงไปยังตัววัดมีต้นสนซีดาห์ (Cedar) และต้นซากุระพันธุ์ที่มีกิ่งห้อยลงมา (Weeping Cherry Blossom) เรียงรายเป็นแนวยาว

ใกล้กันมีที่ราบสูงครึ่งวงกลม “Senjojiki Cirque” ที่ต้องนั่งกระเช้า Komagatake Ropeway ขึ้นไป เปิดให้บริการตลอดทั้งปี สามารถชมวิวเทือกเขาแอล์ปตอนกลางและตอนใต้ได้อย่างงดงามเกินบรรยายบนความสูง 2,612 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงใบไม้ผลิทว่าบนยอดเขายังคงมีหิมะปกคลุมอยู่ หิมะส่วนอื่นจะละลายกลายเป็นแหล่งกำเนิดน้ำตก Nakagosho ประดับเป็นภาพที่สวยงามอย่างยิ่ง

รายละเอียด

ช่วงที่ชมซากุระได้สวยที่สุด: กลาง-ปลายเดือนเมษายน

สถานที่: เมือง Komagane ตอนใต้ของจังหวัด Nagano

การเดินทาง: จากสถานี Nagano นั่งรถไฟ Wide View Shinano train ไปลงที่สถาน Shiojiri จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย JR Chuo line และลงที่สถานี Tatsuno และเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟสาย Iida Line และลงที่สถานี Komagane (ใช้เวลาประมาณ 135 นาที)
นั่งรถบัส Komagatake Ropeway Bus และลงที่ป้าย Kiriishi Koen Shita (อยู่ระหว่างป้าย Nyotai Iriguchi และ ป้าย Suganodai Bus Center) จากนั้นเดินต่อ 5 นาที รถบัสขาไปวัด ออกชั่วโมงละ 1 คัน ตั้งแต่เวลา 8:00-15:00 น. และขากลับจากวัดชั่วโมงละ 1 คัน ตั้งแต่เวลา 9:12-16:12 น. และจะมีการเพิ่มจำนวนรถบัสหลังวันที่ 18 เมษายน

นี่คือ เว็บไซต์ ที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่ต้องการเดินทางด้วยรถบัส!

7. สวน Koboyama Koen เมือง Matsumoto

ซากุระกว่าพันต้นบน Koboyama

ห่างออกมาจากใจกลางเมือง Matsumoto จุดชมซากุระแห่งนี้อยู่นอกสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก ทว่า กลับเป็นจุดชมซากุระที่มีวิวงดงามอย่างยิ่ง

ที่นี่ คุณสามารถมองเห็นเมือง Matsumoto ได้ทั้งเมือง เทือกเขาแอล์ปญี่ปุ่น ยอดเนินเขา Koboyama ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงต้นซากุระ 4,000 ต้น มีหลากหลายเส้นทางเดินเขาให้คุณได้เดินเล่นท่ามกลางป่าซากุระ ในช่วงฤดูที่ซากุระบานสะพรั่งเต็มที่จะมีการจัดแสดง Light-up ที่นี่เช่นกัน

รายละเอียด

ช่วงที่ชมซากุระได้สวยที่สุด: กลาง-ปลายเดือนเมษายน

สถานที่: เมือง Matsumoto ตอนกลางของจังหวัด Nagano

การเดินทาง: จาก Matsumoto Bus Terminal นั่ง รถบัสสาย Namiyanagi ไปที่ Koboyama Iriguchi จากสถานี Matsumoto นั่งรถไฟ JR สาย Chuo line ไปลงที่สถานี Minami Matsumoto จากนั้นเดินต่อ 30 นาที

8. สวน Obuse Riverside Park เมือง Obuse

ซากุระริมคันดินที่ทอดตัวยาวเป็นไมล์

นอกเมือง Obuse เลียบแม่น้ำ Chikuma คือที่ตั้งของสวน Obuse Riverside ที่นี่มีต้นซากุระพันธุ์ Yaezakura กว่า 600 ต้นปลูกริมสองข้างเรียงรายเป็นระยะทาง 4 กีโลเมตร อีกทั้งยังมีต้นบ๊วยและดอก Nanohana บานคู่กันไปด้วย ระหว่างช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมเราจะได้เห็นภาพวิวดอกไม้สีชมพูเหลืองตัดกันได้อย่างสวยงาม

คุณสามารถเดินเล่นหรือปั่นจักรยานชมความงดงามนี้ได้ตลอดระยะทาง 4 กิโลเมตรท่ามกลางต้นซากุระตลอดสองฝั่ง อย่าลืมแวะพักที่ Oasis Obuse Center หาของรองท้อง หรือทำกิจกรรมไต่หน้าผา (Bouldering) ได้ที่นี่

Obuse ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะชื่อดัง Hokusai Museum และวัด Gansho-in อีกด้วย

รายละเอียด

ช่วงที่ชมซากุระได้สวยที่สุด: ปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม

สถานที่: เมือง Obuse ตอนเหนือของจังหวัด Nagano

การเดินทาง: จากสถานี Nagano นั่งรถไฟสาย Nagano Dentetsu ไปลงที่สถานี Obuse จากนั้นเดินต่อ 20 นาที

9. สวน Oide Park หุบเขา Hakuba

วิวซากุระสุดอลังการท่ามกลางภูเขาหิมะที่สวน Oide Park

หากคุณจะมองหาจุดที่สามารถชมวิวเทือกเขาแอล์ปญี่ปุ่นได้สวยงามกว่าที่ Hakuba แล้วละก็คงจะเป็นเรื่องยาก วิวภูเขาที่ส่วนยอดยังถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวตัดกับสีท้องฟ้าอันสดใสในฤดูใบไม้ผลิเป็นภาพวิวที่งดงามเป็นพิเศษ

สวน Oide Park เหมาะที่สุดในการชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ภาพวิวยอดเขาที่หิมะสะท้อนแสงอาทิตย์ระยิบระยับของเทือกเขาแอล์ปญี่ปุ่น และสีฟ้าของแม่น้ำ Himekawa ที่ถูกล้อมด้วยสีชมพูจากต้นซากุระประกอบกันขึ้นเป็นภาพทิวทัศน์ที่งดงาม ทั้งยังมีภาพสะพานไม้เล็ก ๆ ที่ทอดข้ามแม่น้ำกับอาคารเก่าช่วยเพิ่มบรรยากาศต่างจังหวัดของญี่ปุ่นให้ยิ่งงดงามจับใจยิ่งขึ้น

สำหรับกิจกรรมสนุก ๆ บริเวณนี้ คุณสามารถหาทัวร์ Outdoor ได้ที่ Evergreen Outdoor Center ในช่วงเดือนเมษายนที่นี่มีการจัดทัวร์ปั่นจักรยานขึ้นภูเขา Rafting ปีนเขา และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย!

รายละเอียด

ช่วงที่ชมซากุระได้สวยที่สุด: ปลายเดือนเมษายน

Location: หุบเขา Hakuba

Access: จากสถานี Nagano นั่งรถบัสสาย Hakuba มาลงที่ป้าย Hakuba จากนั้นเดินต่อ 15 นาที
จากสถานี Matsumoto นั่งรถไฟสาย Oito มาลงที่สถานี Hakuba จากนั้นเดินต่อ 15 นาที

Update:2020/03/13

Recommended articles

Share this experience

LINE
Twitter
Facebook